📣เรื่องสุขภาพ เรื่องใหญ่ คนไทยต้องเลิกรอ❗️ โดย ดร.สุวดี

วันนี้นิคอยากชวนทุกคนมาดูกันค่ะ ว่ากว่าจะถึงขั้นตอนการรักษา

และกระบวนการหลังรักษา คนไทยต้องรออะไรบ้าง

รวมไปถึงผลกระทบของความล่าช้า

ในกระบวนการรอรักษา

.

เรื่องสุขภาพ เรื่องใหญ่ ถึงเวลาแล้วที่ คนไทยต้องเลิกรอ!

เพราะสิทธิ์เข้าถึงการรักษาอย่างรวดเร็ว

และมีประสิทธิภาพเป็นของทุกคน

.

เมื่อเราเจ็บป่วยไข้ขึ้นมา เราก็อยากจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีใช่ไหมคะ

.

แต่ในประเทศไทยปัจจุบัน การเข้ารับการรักษาตามสิทธิในโรงพยาบาลรัฐนั้นมีความล่าช้าในหลายส่วน

ซึ่งจากสถิติพบว่า คนไทยกว่าร้อยละ 46.22 รอคิวหมอนานมากกว่า 8 ชั่วโมง ซึ่งหลายคนต้องลางานทั้งวันเพื่อเข้าพบหมอเพียง 5-10 นาที

ระหว่างทางเราต้องรออะไรบ้าง แล้วทำอย่างไรคนไทยถึงจะเข้าถึง

การรักษาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างเท่าเทียมมาดูกันเลยค่ะ

.

🇹🇭กว่าจะได้รักษา คนไทยต้องรออะไรบ้าง ❓

🟠รอรถประจำทาง / การจราจรติดขัด
ผู้ป่วยบางคนที่ไม่มีรถส่วนตัวจะต้อง
อาศัยเดินทางขึ้นรถโดยสารสาธารณะ
ซึ่งบางครั้งรถติดปัญหามาช้า
.
โดยข้อมูลจากขสมก.พบว่า
บางคนรอรถมากกว่า 1 ชั่วโมง
หรือหากคนเต็ม หรือรถหมด
อาจจะต้องเปลี่ยนไปใช้แท็กซี่
ก็จะทำให้เสียค่าโดยสารเดินทางหลายต่อ
กว่าจะไปถึงโรงพยาบาล
อาการป่วยอาจจะแย่ลงได้
.
ซึ่งอีกปัญหาหนึ่งที่พบเจอคือ เรื่องรถติด
ที่ทำให้บางคนต้องตื่นตี 4-5 ไปโรงพยาบาล
เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดในช่วงเช้า
.
🟠รอคิวซักประวัติ / รอคิวเจาะเลือด
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลหลังจากยื่นบัตรประชาชน
กับฝ่ายทะเบียนเสร็จจะได้รับบัตรคิวเพื่อรอซักประวัติ
.
ซึ่งจากข้อมูล บางคนรอเรียกซักประวัติ
นานกว่า 4 ชั่วโมง
อีกทั้งจากผลสำรวจ ปัญหาทุกข์ร้อนที่ผู้คนเจอ
ในรพ. รัฐ ร้อยละ 34.9 ระบุว่า
เจอพยาบาล บุรุษพยาบาล พูดจาไม่ดี
ทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวดอยู่แล้ว
มีความเครียดเพิ่มมากขึ้น
.
ซึ่งสาเหตุของปัญหาอาจเกิดจากความเหนื่อยล้า
จากการทำงานที่ยาวนาน ความเครียดสะสมของ
บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องรองรับ
ผู้ป่วยจำนวนมากในแต่ละวัน
.
และสำหรับผู้ป่วยที่ต้องมาเจาะเลือดตามนัดนั้น
การจองคิวเจาะเลือดก็ยังถือว่าเป็น
สงครามการแย่งชิงคิวตรวจที่ดุเดือด
ในโรงพยาบาลใหญ่หลายแห่ง
ต้องออกจากบ้านมาจองคิวกันตั้งแต่ตี 4 ตี 5
.
แม้ว่าในปี 63 ที่ผ่านมาสธ.จะสนับสนุน นำร่อง
โครงการเจาะเลือดใกล้บ้าน
เพื่อลดความหนาแน่นในโรงพยาบาล
และเพื่อความสะดวกรวดเร็วของประชาชน
แต่ก็พบว่าโครงการยังกระจายตัวไปเพียง
บางโรงพยาบาล และบางจังหวัดเท่านั้น
.
🟠รอตรวจรักษา
สำนักวิจัยเผยผลสำรวจ ปัญหาทุกข์ร้อน
ที่ผู้คนเจอในรพ. รัฐ
โดยปัญหาอันดับ 1 ที่ผู้คนเจอนั้นก็คือ
การรอการรักษาที่ยาวนาน
ถึงร้อยละ 51.7 ที่เป็นผู้ป่วยทั่วไป
ซึ่งระยะเวลาเฉลี่ยที่เข้าพบแพทย์
นั้นคือ 5-10 นาที
.
และกว่าร้อยละ 47.1 เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน
ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
แต่กลับไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
.
ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่า มีขั้นตอนในการรักษา
ผู้ป่วยฉุกเฉินกว่า 30 ขั้นตอน ทำให้ผู้ป่วยได้รับบริการที่ล่าช้า
.
โดยมีขั้นตอนในการรอ 13 ขั้นตอน
และขั้นตอนการรักษา 17 ขั้นตอน
ซึ่งร้อยละ 35.60 ต้องรอนานกว่า 4 ชั่วโมง
ขั้นตอนที่ต้องนานที่สุดคือ การรอผลจากห้องปฏิบัติการ
.
🟠รอรับยา
เป็นอีกขั้นตอนก่อนสิ้นสุดกระบวนการรักษา
ซึ่งเป็นการรับยาตามคำสั่งแพทย์
และคำแนะนำจากเภสัชกร
ในกระบวนการนี้ผู้ป่วยที่ได้รับใบสั่งยา
จากแพทย์ต้องนำไปยื่นที่หน้าห้องยา
และรอเภสัชกรเรียกให้ไปรับยา
บางโรงพยาบาลคนไข้เยอะ ที่บางคนเคยเจอ
คือรอไป 3-5 ชั่วโมง เลยทีเดียวค่ะ
.
🟠รอส่งต่อการรักษาเฉพาะทาง
ถ้าพบว่าคนไข้มีความจำเป็นต้องได้รับ
การดูแลรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง เช่น แพทย์จักษุ
แพทย์ทั่วไปจะส่งคนไข้ไปยังแผนกนั้นๆ
ซึ่งการส่งต่อการรักษา โดยที่อาจจะนัดวันเวลาตรวจให้
ซึ่งทำให้คนไข้ต้องมาพบหมอเฉพาะทางตามนัดเพื่อตรวจรักษาอีกครั้ง

.

⏪️เมื่อกระบวนการรักษาล่าช้า เราต้องเสียอะไรบ้าง ❓

ผลกระทบที่เกิดขึ้น

🔴เสียสุขภาพ ทำให้เกิดความเครียด 

จากผลสำรวจของ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล 

พบว่า ปัญหาทุกข์ร้อนของผู้คนเวลาไปโรงพยาบาลรัฐ

อันดับ 1 ก็คือกระบวนการรักษาที่ล่าช้า 

.

🔴เสียเวลาในการรอ

ผู้ป่วยรอกระบวนการระหว่างการรักษาที่ล่าช้าโดยไม่จำเป็น

.

🔴เสียการงาน

เมื่อป่วย บางคนต้องลางาน หรือหยุดทำมาหากิน 

เพื่อไปรอคิวตรวจรักษาเป็นวันๆ ทำให้ขาดรายได้ เสียการงานในวันนั้นๆไป

ยิ่งสำหรับใครที่อาชีพค้าขาย รับจ้างทั่วไป ก็จะต้องขาดรายได้หลักส่วนนั้นไป 

ซึ่งบ้างครั้งมีภาระหนี้สินที่หนักอึ้งอยู่ หรือมีครอบครัวที่ต้องดูแล

.

🔴อาการป่วยอาจแย่ลงได้

เมื่อต้องนั่งรอนานๆก็จะเกิดความเครียด อีกทั้งผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วยอยู่ก่อนหน้า

อาจจะมีอาการแย่ลงได้ เพราะอาการป่วยไม่ได้ถูกรักษาอย่างทันท่วงที

ยิ่งหากเป็นในกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินอาจจะทำให้ถึงขั้นเสี่ยงแก่ชีวิตได้

.

🔴ความเสี่ยงโรคเพิ่ม

เมื่อไปโรงพยาบาลเราต้องพบเจอกับผู้คนมากมาย

ซึ่งมีอาการเจ็บป่วยต่างๆกันไปอาจจะทำให้ เราอาจได้รับเชื้ออื่นๆเพิ่มเติม

จากการสัมผัสใช้ที่นั่งสาธารณะโดยที่ไม่มีการป้องกัน

.

🚩ถึงเวลาที่ คนไทยต้องเลิกรอ‼️

จะดีกว่ามั้ยถ้าไม่ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 มารอคิวรักษาไม่ตื่นมาจองคิวตั้งแต่ตี4 ตี5 หรือรอคิวเป็นวัน เพื่อให้หมอตรวจไม่ถึง 5 นาที

🟢เลิกรอรถ ด้วย Ai health care อยู่ที่ไหนก็รักษาได้
.
ไม่ต้องเสียเงิน หรือเสียเวลาเดินทางหลายต่อ
สามารถใช้สิทธิ์ครอบคลุม 30 บาทเหมือนเดิม
ด้วยเทคโนโลยี AI Mobile Doctor ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
ก็สามารถให้คำปรึกษา และวินิจฉัยโรคเบื้องต้นได้
อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

.

.

🟢เลิกรอจองคิว เพราะ มีระบบช่วยจองคิว
.
ใน Mobile Doctor จะมีระบบช่วยจองคิว
ตรวจรักษา หากมีความจำเป็นต้องไปรักษา
ที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์ อีกทั้งยังช่วยจองคิว
ตรวจเลือด ไม่ต้องตื่นตี 4 ตี 5 มาแย่งคิว

.

.

🟢เลิกรอตรวจ เพราะ คนไทยทุกคน จะมีหมอประจำตัว ที่ให้บริการตลอด 24 ชม.
.
ใช้เทคโนโลยี AI health เข้ามาช่วย
ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยเบื้องต้น
ด้วย หมอ Ai บน Mobile Doctor
หมอมาตรฐานอเมริกา ที่คะแนนสอบแพทย์
สูงถึง 80%-90% ทุกวิชา
โดยจะมีระบบ Chat bot หรือ ChatGPT
คอยให้คำวินิจฉัยที่รวดเร็วและแม่นยำตลอด 24 ชม.
.
ผู้ป่วยที่อาการไม่หนัก ผู้ป่วยที่ถูกวินิจฉัยโรค
เป็นโรคธรรมดา สามารถดูแลรักษาด้วยตนเองได้
ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล

.

.

🟢เลิกรอรับยา เพราะสามารถรับยาใกล้บ้านได้ รวมถึงผู้ป่วยรับยาต่อเนื่อง
.
เมื่อวินิฉัยโรคผ่านทาง หมอ AI Chat ก็สามารถสแกน QR Code
เพื่อรับยาฟรีได้ตามร้านขายยาใกล้บ้าน
อีกทั้งผู้ป่วยที่ต้องรับยาต่อเนื่องทุกเดือน
ก็จะสามารถไปรับยาได้ที่ร้านขายยาใกล้บ้านได้เช่นกัน

.

.

🟢เลิกรอส่งต่อการรักษาเฉพาะทาง เพราะ
ระบบจะนัดคิวตรวจหมอเฉพาะทาง ส่งต่อการรักษาอย่างเป็นระบบ
.
ผู้ป่วยท่านใดที่วินิจฉัยโรคแล้วมีความจำเป็น
ต้องส่งต่อการรักษาไปยังแพทย์เฉพาะทาง
ระบบ Mobile Doctor ก็จะนัดคิวตรวจให้
อย่างเป็นระบบ

.
.

🟢เลิกรอให้ป่วยแล้วค่อยดูแล ด้วย DIY health care
.
“ DIY Health Care ”หรือ P4
เป็นหลักการวิเคราะห์และการหาแนวทางป้องกัน
ที่จะทำให้คนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า
.
P1 – ส่วนบุคคล (Personalized)
การวิเคราะห์แนวโน้มการเกิดโรคเป็นรายบุคคล
.
P2 – ป้องกัน (Preventive)
วิธีป้องกันก่อนเกิดโรค
คำนวณว่าจะต้องกินหรือออกกำลังกายแบบใด
.
P3- คาดการณ์ (Predictive)
การคาดการณ์ จากข้อมูลของคนในครอบครัว
หาแนวโน้มโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

P4 – มีส่วนร่วม (Participatory)
การมีส่วนร่วมในการวางแผนด้านสุขภาพ
ให้แก่ทุกคนในครอบครัว

.

.

✅ 30 บาทพลัส VS โรงพยาบาลแออัด🏥

เมื่อพูดถึงเหตุผลที่ระบบให้บริการในรพ.รัฐ ล่าช้า นั้น
มีอยู่ 3 ประเด็นใหญ่ๆค่ะ คือ
.
1.จำนวนหมอที่ไม่เพียงพอ
ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข เมื่อปี 2561 พบว่า
อัตราส่วนหมอต่อประชากรอยู่ที่ 1 ต่อ 1,250 คน
ซึ่งหมอต้องทำงานอย่างหนักวันละ 12-15 ชม.
จากผลสำรวจพบว่า แพทย์กว่า 90% เคยวินิจฉัยผิดพลาด
เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ
.
แก้ไขด้วย “ หมอ Ai ช่วยคัดกรองคนไข้”

ใช้เทคโนโลยี AI health เข้ามาช่วย
ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยเบื้องต้น
ด้วย หมอ Ai บน Mobile Doctor
หมอมาตรฐานอเมริกา ที่คะแนนสอบแพทย์
สูงถึง 80%-90% ทุกวิชา
โดยจะมีระบบ Chat bot หรือ ChatGPT
คอยให้คำวินิจฉัยที่รวดเร็วและแม่นยำตลอด 24 ชม.
.
ผู้ป่วยที่อาการไม่หนัก ผู้ป่วยที่ถูกวินิจฉัยโรค
เป็นโรคธรรมดา สามารถดูแลรักษาด้วยตนเองได้
ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล
ระบบก็จะจัดส่งคิวอาร์โค้ดสแกนรับยา
ที่ร้านขายยาใกล้บ้าน
.
ซึ่งจะทำช่วยให้ผู้ป่วยไม่ต้องรอคิว
ทำให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลลดลง
อีกทั้งยังช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานง่ายขึ้น
และแพทย์ปฏิบัติหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

.

.

2. คนไทยขาดความรู้ด้านสุขภาพเบื้องต้น

ข้อมูลจาก สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข พบว่า คนไทยมากกว่า 98% ไม่รู้วิธีการดูแลรักษาตัวเองเบื้องต้น ทำให้มีคนไข้ที่ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์กว่า 60% คือ สามารถดูแลรักษาตัวเองที่บ้านได้ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนไข้ล้นโรงพยาบาล การรอคิวก็จะนานมากขึ้นเช่นกัน

.

แก้ไขด้วย “ DIY Health Care ” ที่จะให้ความรู้ วิธีดูแลรักษาและรับมือกับปัญหาสุขภาพด้านต่างๆ เตรียมความพร้อมให้คนรุ่นใหม่ป้องกันตัวไปพร้อมๆ กัน ด้วยแนวคิด DIY Health Care หรือ P4 หลักการวิเคราะห์และหาแนวทางป้องกัน

.

.

3.การกระจุกตัวอยู่ที่โรงพยาบาลใหญ่
ซึ่งมาจากแนวที่คิดว่าโรงพยาบาลยิ่งใหญ่ยิ่งดี
ทำให้ผู้ป่วยกว่า 50% ที่สามารถเข้ารับการรักษา
จากโรงพยาบาลชุมชนได้
ต่างหลั่งไหลเข้ามาที่โรงพยาบาลใหญ่
เพราะผู้ป่วยขาดความเชื่อมั่นในโรงพยาบาลชุมชน
.
แก้ไขด้วย

30 บาท พลัส สร้างสุขภาพคนไทยให้ดีถ้วนหน้า
Thailand health credit สุขภาพดีมีรางวัล

Ai ช่วยวิเคราะห์สุขภาพรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
วางแผนสุขภาพ ด้วย DIY healthcare
ด้วยหลัก P4 ที่ไม่ต้องรอให้ป่วยแล้วค่อยรักษา
.
โครงการส่งเสริมสุขภาพด้วย Thailand health credit สุขภาพดีมีรางวัล
.
ส่วนลดค่าใช้จ่ายต่างๆของรัฐ
เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าประปา
ค่าเดินทางรถสาธารณะ เป็นต้น
.
เป็นการปฏิวัติวิธีคิดระบบสาธารณสุข
ให้เป็นมากกว่า การรักษาฟรี
สร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน
ทำให้คนไทยใส่ใจดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น
เพราะป่วยน้อยลง กระจุกตัวของผู้ป่วย
ในโรงพยาบาลก็น้อยลงเช่นกันค่ะ

.

.

📣 ” ปฏิวัติวิธีคิดระบบสาธารณสุขไทย
ด้วย 30 บาทพลัส ให้เป็นมากกว่า การรักษาฟรี”🚩
.

ด้วยเทคโนโลยี Ai ที่ จะมาช่วยวิเคราะห์ สุขภาพคนไทยอย่างรวดเร็วและแม่นยำทำเป็น Big data รวบรวมข้อมูลสุขภาพของคนไทย และนำมาวางแผนสุขภาพ ด้วย DIY healthcare
และปฏิวัติวงการสาธารณสุขด้วยหลัก P4 ที่ไม่ต้องรอให้ป่วยแล้วค่อยรักษา
.
อีกทั้งยังมีโครงการส่งเสริมสุขภาพด้วย Thailand health credit สุขภาพดีมีรางวัล
ที่จะนำเทคโนโลยีเช่น smart watch
มาช่วยบอกสถานะสุขภาพ
คนไทยที่ดูแลตัวเองดีต้องมีรางวัล
ส่วนลดค่าใช้จ่ายต่างๆของรัฐ
เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าประปา
ค่าเดินทางรถสาธารณะ เป็นต้น
.
🤝🏻มาร่วมสร้างสังคมไทยให้สุขภาพดีถ้วนหน้าไปด้วยกันนะคะ🇹🇭