วันนี้นิคจะมานำเสนอ 5 อาการโรคซึมเศร้าในผู้สูงวัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ลูกหลานควรใส่ใจเป็นพิเศษ
.
โรคซึมเศร้าไม่ได้เกิดแค่ในเฉพาะวัยหนุ่ม-สาวเท่านั้นนะคะ
เพราะยังสามารถเกิดได้ในคนสูงวัยได้เหมือนกัน
บทความจากโรงพยาบาลจุฬาได้ยืนยันว่า
โรคซึมเศร้าในผู้สูงวัย มีส่วนอาการที่คล้ายคลึงและแตกต่างกับโรคซึมเศร้าทั่วไป
.
ซึ่งโรคซึมเศร้าในผู้สูงวัยมีหลายปัจจัยเลยทีเดียวที่ทำให้เกิด
เช่น การถูกปล่อยปละละเลย, การสูญเสียความมั่นใจกะทันหัน เป็นต้น
ซึ่งจะส่งผลต่อทางร่างกายหรือจิตใจ
ในบางกรณีก็อาจจะมีผลทั้งสองทางเลยก็ได้เช่นกันค่ะ
.
ทีนี้จะรู้ได้อย่างไรว่า
ผู้ใหญ่ที่บ้านของเรากำลังมีอาการซึมเศร้า
ลองมาเช็กอาการสำคัญๆ เหล่านี้ไปพร้อมๆ กันดูนะคะ
.
.
1 มีภาวะอารมณ์ไม่คงที่
.
สิ่งที่เป็นสัญญาณเตือนโรคซึมเศร้าชั้นดีเลยคือ
ผู้สูงวัยมีอาการอารมณ์ไม่คงที่ค่ะ
บางรายอาจมีอารมณ์รุนแรงมาก โมโหร้าย ฉุนเฉียวง่ายกว่าปกติ
.
หรือในบางรายก็อาจจะมีอาการสะเทือนใจง่าย
น้ำตาไหลบ่อย หรือโทษตัวเองบ่อยๆ ว่าเป็นภาระของลูกหลาน
ถ้าหากผู้สูงวัยที่บ้านไหนมีอาการเข้าข่ายไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
ทางการแพทย์แนะนำว่า
ให้ลองรับฟังผู้สูงวัยระบายอารมณ์จนถึงที่สุดก่อน
แล้วค่อยๆ เข้าไปจับมือ นวดมือ เพื่อให้ผู้สูงวัยผ่อนคลายค่ะ
.
.
2 นอนไม่หลับ หรือ หลับมากเกินพอดี
.
นอกจากสัญญาณทางจิตใจแล้ว
ก็ยังมีสัญญาณทางกายด้วยค่ะที่จะแสดงออกมา
หนึ่งในนั้นคือเรื่องของ “การนอนหลับ”
ที่ผู้ใหญ่บางท่านอาจจะมีอาการนอนไม่หลับ
หลับยากมากกว่าปกติ
หรือมีการนอนหลับๆ ตื่นๆ อยู่บ่อยๆ นั่นเองค่ะ
.
ในทางกลับกันก็มีกรณีของการแสดงออกว่านอนบ่อยเกินไป
อยากนอนทั้งวัน นอนมากจนผิดปกติ
ไม่อยากลุกไปไหน ไม่อยากทำอะไร
อาการแบบนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของโรคซึมเศร้าในผู้สูงวัยได้เช่นกันค่ะ
.
ดังนั้นทางแก้ในวิธีนี้นะคะ
ทางการแพทย์แนะนำว่า ให้ลองชวนผู้ใหญ่ที่บ้านพูดคุย
เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ
หรือถ้าหากทำแล้วยังไม่ได้ผล
ให้ลองชวนผู้ใหญ่ไปทำกิจกรรมแปลกใหม่ดูค่ะ
หรืออาจจะพาออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาที่ใหม่ๆ บ้างก็ได้
เพื่อสร้างสีสันให้ชีวิตของผู้สูงวัยมากขึ้น ไม่จับเจ่ากับที่เดิมๆ นั่นเองค่ะ
.
.
3 แรงตก ปวดเอว ปวดตัว
.
นอกจากจะมีเรื่องของอาการนอนไม่หลับแล้ว
ก็อยากให้ลูกๆ หลานๆ หลายบ้านคอยสังเกต
เรื่องพฤติกรรมการใช้ชีวิตในประจำวันกันด้วยนะคะ
ว่าผู้ใหญ่ในบ้านมีปัญหาเรื่องแรงตก บ่นปวดตัว ปวดเอวบ้างไหม
.
เพราะการปวด เจ็บออดๆ แอดๆ
หลายคนมักมองข้ามและคิดว่าเป็นอาการที่มาตามวัยที่ชราภาพลง
แต่จริงๆ แล้วแพทย์ให้ความเห็นว่า
เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของอาการซึมเศร้าที่มากับผู้สูงวัยเช่นกัน
เพราะถือเป็นการเปลี่ยนผ่านของวัย หรือช่วงรอยต่อ
ที่ผู้ใหญ่บางคนยังทำใจไม่ได้ และไม่อยากยอมรับ
จึงทำให้แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน
.
ทางแก้ของเรื่องนี้คือ
แพทย์แนะนำนะคะ ว่าให้เข้าไปไถ่ถาม แสดงอาการเป็นห่วง
รับฟังและพูดคุยบ่อยๆ ให้กำลังใจมากๆ
เพื่อให้ผู้สูงวัยค่อยๆ ยอมรับและต่อสู่กับภาวะที่เปลี่ยนไปกับร่างกายตนเองค่ะ
.
.
4 กินข้าวน้อย หรือแทบไม่กินอะไรเลย
.
ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงวัย หรือคนวัยหนุ่ม-สาว
สัญญาณของการกินข้าวไม่ได้
ย่อมหมายถึงภาวะผิดปกติที่เกิดอะไรสักอย่างกับร่างกายแน่นอน
.
สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ
ให้ลองจับตาดูการกินข้าวของผู้ใหญ่ในบ้านดูค่ะ
ว่าเมื่อก่อนทานปริมาณเท่าไหร่ และปัจจุบันทานได้เท่าเดิมหรือไม่
ถ้าหากทานได้เท่าเดิม หรือทานมากกว่าเดิมก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้าหากทานน้อย หรือวันๆ แทบจะไม่กินอะไรเลยนั้น
แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้วแน่นอนค่ะ
.
ทางแก้ของเรื่องนี้ในเบื้องต้นคือ
ให้ลองปรับเปลี่ยนเมนูในการทานอาหารดู
จัดจานให้น่าทานขึ้น เปลี่ยนรสชาติแปลกใหม่บ้าง
เพื่อที่จะทำให้คนแก่ไม่เบื่อการรับประทานอาหาร
หรืออาจลองปรึกษาหมอให้รับประทานอาหารเสริม
เพื่อกระตุ้นความอยากอาหารให้มากขึ้นค่ะ
.
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ
เพราะการกินถือว่าเป็นเรื่องใหญ่
ถ้าหากผู้ใหญ่ไม่รับประทานอาหารเลยจะทำให้ป่วยง่าย
และอาจทำให้ยารักษาบางตัวด้อยประสิทธิภาพลง
ดังนั้นลูกๆ หลานๆ อย่าลืมให้ความใส่ใจเรื่องนี้กันด้วยน้า
.
.
5 เหม่อลอย พูดน้อย ไม่ร่าเริง
.
อีกหนึ่งอาการสุดท้ายที่ลูกหลานหลายคนอาจไม่สังเกต
คือ อาการเหม่อลอย พูดน้อย ไม่แจ่มใสของคนสูงวัย
ซึ่งพฤติกรรมก็จะเป็นอย่างที่นิคอธิบายไปเลยค่ะ
นั่นคือการไม่อยากพูดคุยกับใคร ไม่อยากออกไปไหน
วันๆ ก็นั่งเหม่อลอย ใครชวนพูดอะไรก็ไม่ตอบ
.
แพทย์วิเคราะห์นะคะว่า
อาการเหล่านี้มาจากสภาพจิตใจที่สูญเสียความมั่นใจ
รู้สึกว่าจู่ๆ ชีวิตตนเองไม่มีคุณค่าเหมือนแต่ก่อน
ผนวกกับการที่ลูกหลานอาจจะไม่ได้มาให้เวลา
หรือให้ความใส่ใจมากมายนัก
เลยทำให้เกิดภาวะเซื่องซึม ซึมเศร้าจนไม่อยากทำอะไรค่ะ
.
ทางแก้ในเรื่องนี้ คือ การที่ลูกหลานกลับไปเยี่ยมคนสูงวัยบ่อยๆ
หรือใครที่อยู่บ้านเดียวกันอยู่แล้วก็ชวนพูดคุยเรื่องสนุกๆ
ใช้เวลาร่วมกันให้มากๆ
หรืออย่างน้อยๆ ที่สุด ก็ควรหากิจกรรม หรือส่งเสริมให้เขาประกอบอาชีพ
เพื่อที่จะได้ไม่เหงา ไม่เบื่อ
และรู้สึกว่าตนเองกลับมามีคุณค่าอีกครั้งค่ะ
.
.
อย่างที่นิคได้กล่าวไปแล้วนะคะ
ภาวะซึมเศร้าในผู้ใหญ่สามารถเกิดได้หลายปัจจัยเลยค่ะ
ทั้งทางสารสื่อประสาทในสมองทำงานผิดปกติ
และทางด้านจิตใจที่โดนกระทบกระเทือนจนทำให้สูญเสียความเชื่อมั่น
เช่น เจออุบัติเหตุ, สูญเสียคนที่รัก, หรือแม้กระทั่งเข้าสู่วัยเกษียณ
.
ผู้สูงวัยบางคนเมื่อไม่มีงานทำก็รู้สึกว่าตนเองไร้คุณค่า
เพราะเมื่อไม่มีงาน ก็ไม่มีเงิน ต้องคอยพึ่งพาลูกหลานเพียงอย่างเดียว
ครั้นจะให้พึ่งพาเบี้ยยังชีพเพียง 600 บาทต่อเดือนก็ไม่พอจะใช้
จึงทำให้ผู้สูงวัยหลายคนในประเทศจับเจ่า เกิดอาการซึมเศร้า
.
แต่เนื่องจากประเทศเรากำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
เราจึงเล็งเห็นความสำคัญที่จะสร้างเสริมอาชีพให้คนสูงวัย
ได้กลับมามีความมั่นใจ และมีรายได้อย่างมีศักดิ์ศรีอีกครั้ง
ไม่ใช่แค่เงินบำนาญที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 บาทเท่านั้น
แต่โครงสร้างเศรษฐกิจจะปรับทั้งภาครัฐและเอกชน
ให้ผู้สูงวัยที่แข็งแรงได้กลับเข้าสู่ระบบการทำงาน
สร้างเสริมอาชีพ และไม่ต้องเป็นคนแก่ที่พึ่งพาแต่ลูกหลานอีกต่อไปค่ะ
.
.
ทุกคนคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างคะ
ผู้สูงวัยที่บ้านมีอาการแบบไหนกันบ้าง มาแชร์กันค่ะ